วิดีโอเกมสำหรับเด็กเป็นรูปแบบหนึ่งของความบันเทิงที่มีปฏิสัมพันธ์กัน โดยออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเด็ก เพื่อเน้นเนื้อหาที่เหมาะสมกับอายุ คุณค่าทางการศึกษา และประสบการณ์การเล่นเกมที่ปลอดภัย เกมเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับระดับการพัฒนาทางสติปัญญา อารมณ์ และพัฒนาการโดยรวมของผู้เล่นที่ยังเยาว์วัย โดยนำเสนอความท้าทายที่กระตุ้นให้มีส่วนร่วมและผสมผสานระหว่างความสนุกสนาน การเรียนรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงความรุนแรงเกินเหตุ ธีมที่ซับซ้อน หรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เนื้อหาในวิดีโอเกมสำหรับเด็กมักจะเน้นภาพสีสันสดใส ตัวละครน่ารัก ๆ และเรื่องราวที่เข้าใจง่าย ซึ่งสามารถปลุกจินตนาการของเด็กได้ แนวคิดของเกมอาจประกอบด้วยการผจญภัย การสำรวจ การแก้ปริศนา หรือการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ พร้อมทั้งเนื้อเรื่องที่ส่งเสริมคุณค่าเชิงบวก เช่น มิตรภาพ การทำงานเป็นทีม และความพยายาม ตัวอย่างเช่น เกมอาจให้ผู้เล่นช่วยตัวละครเดินทางผ่านป่าเวทมนตร์ การแก้ปริศนาที่ใช้คณิตศาสตร์เพื่อปลดล็อกพื้นที่ใหม่ หรือการออกแบบและปรับแต่งโลกเสมือนจริง — ทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นและความสุขโดยไม่ทำให้จิตใจของเด็กๆ รู้สึกถูกกดดันมากเกินไป กลไกการเล่น (Gameplay) จะถูกออกแบบให้เหมาะกับทักษะการเคลื่อนไหวและการโฟกัสของเด็ก โดยมีระบบควบคุมที่เข้าใจง่าย ตัวอย่างเช่น อินเตอร์เฟซแบบสัมผัสหน้าจอ (สำหรับเกมบนมือถือหรือแท็บเล็ต) จะมีปุ่มขนาดใหญ่ที่ตอบสนองไว ในขณะที่เกมบนเครื่องคอนโซลหรือพีซีอาจใช้คอนโทรลเลอร์ที่ถูกออกแบบให้เรียบง่ายด้วยปุ่มควบคุมจำนวนน้อย เพื่อให้เด็กสามารถมุ่งเน้นไปที่การเล่นโดยไม่ต้องเสียเวลาฝึกฝนคำสั่งที่ซับซ้อน ระดับความยากมักจะสามารถปรับเปลี่ยนได้หรือเพิ่มขึ้นทีละขั้น เพื่อให้เด็กสามารถสร้างความมั่นใจเมื่อพวกเขาพัฒนาขึ้น พร้อมทั้งมีการเสริมแรงบวกอย่างสม่ำเสมอ (เช่น การชมเชย รางวัล หรือเนื้อหาที่ปลดล็อกได้) เพื่อให้พวกเขามีแรงจูงใจ องค์ประกอบทางการศึกษามักถูกผสานรวมเข้าไว้ในวิดีโอเกมสำหรับเด็ก เพื่อเปลี่ยนการเล่นเกมให้กลายเป็นโอกาสในการเรียนรู้ ตัวอย่างเช่น เกมคณิตศาสตร์อาจให้เด็กนับเหรียญเพื่อซื้อของในร้านค้าเสมือนจริง เกมภาษาอาจให้จับคู่คำศัพท์กับรูปภาพ หรือเกมวิทยาศาสตร์อาจสอนแนวคิดพื้นฐาน เช่น รูปแบบของสภาพอากาศ หรือที่อยู่อาศัยของสัตว์ผ่านการทดลองที่มีปฏิสัมพันธ์กัน เกมเหล่านี้สอดคล้องกับหลักสูตรโรงเรียน ช่วยให้เด็กฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ในสภาพแวดล้อมที่สนุกสนานและไม่มีแรงกดดัน ซึ่งช่วยเสริมการเรียนรู้ในห้องเรียน ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของวิดีโอเกมสำหรับเด็ก โดยแพลตฟอร์มหลายแห่งมีระบบควบคุมของผู้ปกครองที่ช่วยให้ผู้ใหญ่สามารถตรวจสอบระยะเวลาการเล่น จำกัดการโต้ตอบออนไลน์ และกรองเนื้อหาได้ เมื่อมีโหมดเล่นหลายคน ก็มักจะจำกัดเฉพาะการเล่นในท้องที่เดียวกัน (กับเพื่อนหรือครอบครัวในห้องเดียวกัน) หรือห้องเล่นออนไลน์ที่มีการกำกับดูแล โดยมีระบบกรองการสื่อสารเพื่อป้องกันข้อความที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ เกมบางเกมยังมีตัวจับเวลาหรือการแจ้งเตือนเพื่อกระตุ้นให้หยุดพักเป็นระยะ ส่งเสริมพฤติกรรมการใช้หน้าจอนานอย่างเหมาะสม วิดีโอเกมสำหรับเด็กมีให้เล่นบนแพลตฟอร์มหลากหลาย ได้แก่ อุปกรณ์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต เครื่องเล่นเกมคอนโซล (เช่น Nintendo Switch, PlayStation หรือ Xbox) และคอมพิวเตอร์พีซี โดยมีตัวเลือกตั้งแต่แอปพลิเคชันเล่นฟรีไปจนถึงเกมที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเต็มราคา เกมเหล่านี้มักถูกพัฒนาขึ้นร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก นักการศึกษา และผู้ปกครอง เพื่อให้มั่นใจว่าตรงตามมาตรฐานที่เข้มงวดในเรื่องความเหมาะสมกับอายุและคุณค่าทางการศึกษา ไม่ว่าจะเล่นคนเดียวหรือกับผู้อื่น เกมเหล่านี้มอบความบันเทิงที่ไม่เพียงแค่สร้างความเพลิดเพลิน แต่ยังเสริมสร้างทักษะต่าง ๆ เช่น การแก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ และการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและน่าสนใจ